การตรวจสอบความเท่าเทียมกันขององค์ประกอบระหว่างกลุ่มเมื่อข้อคำถามเป็นแบบจัดกลุ่ม

ในหน้าที่ได้แสดงโค๊ดของ lavaan และ Mplus ที่ใช้ในการเปรียบเทียบความเท่ากันขององค์ประกอบระหว่างกลุ่ม เมื่อข้อคำถามเป็นแบบจัดกลุ่ม โค๊ดในหน้านี้ทั้งหมดใช้วิธีการจัดค่าพารามิเตอร์แบบ Theta ซึ่งเป็นวิธีที่ควรทำเมื่อตรวจสอบความเท่ากับขององค์ประกอบระหว่างกลุ่ม (ค่าปกติเป็นการจัดแบบ delta) อย่างไรก็ตามผลการวิเคราะห์ที่ได้จาก lavaan และ Mplus อาจต่างกันเล็กน้อย ไม่มีผลต่อการแปลความหมาย

มีตัวอย่างสองชุด ในตัวอย่างแรก ข้อคำถามจะเป็นแบบลิเคิร์ท 5 ระดับ จำนวน 8 ข้อคำถาม ถูกจัดให้อยู่ใน 2 องค์ประกอบ องค์ประกอบละ 4 ข้อ ข้อมูลจะมีสองกลุ่ม คือ กลุ่มเพศชายและหญิง ส่วนตัวอย่างที่สองจะเหมือนตัวอย่างแรก เพียงแค่ข้อคำถามเป็นแบบสองกลุ่ม

วิธีการเขียนโค๊ดนี้ทำตามวิธีของ Millsap และ Yun-Tein (2004) โค๊ดหน้านี้จะเป็นโมเดลแบบ congeneric ที่ไม่มีน้ำหนักองค์ประกอบแบบข้ามองค์ประกอบ (Cross loadings) และค่าคงเหลือของข้อคำถามไม่มีความสัมพันธ์กัน คุณสามารถดูในบทความหากคุณจะใช้โมเดลที่มีองค์ประกอบซับซ้อนมากกว่านี้

ตามโค๊ดนี้ ใช้วิธีการประมาณค่าแบบ diagonal weighted least square estimator (e.g., WLSMV) ดังนั้น การทดสอบความแตกต่างแบบ chi-square ปกติไม่สามารถใช้ได้ ใน Mplus คุณต้องใช้คำสั่ง DIFFTEST ในการเปรียบเทียบ Chi-square ระหว่างโมเดล

ข้อคำถามแบบลิเคิร์ท (มีจำนวนคำตอบมากกว่า 2 คำตอบ)

คุณต้องกำหนดค่าดังต่อไปนี้ เพื่อใช้กำหนดสเกลในข้อคำถามแบบลิเคิร์ท:

  • สำหรับองค์ประกอบแต่ละตัว น้ำหนักองค์ประกอบของตัวแปรหลัก ควรจะถูกกำหนดเป็นค่าคงที่ เช่น 1 ส่วนน้ำหนักองค์ประกอบอื่นควรปล่อยให้เป็นอิสระ
  • ค่าจุดตัดของตัวแปรหนึ่ง ควรกำหนดให้เท่ากันระหว่างกลุ่ม นอกจากนี้ค่าจุดตัดในตัวแปรหลักอีกจุดตัวหนึ่งควรกำหนดให้เท่ากันระหว่างกลุ่ม ส่วนจุดตัดอื่นให้เป็นอิสระ กล่าวคือ จุดตัดในตัวแปรหลัก ให้เท่ากัน 2 จุดตัด แต่ตัวแปรอื่น ให้เท่ากันระหว่างกลุ่มเพียงแค่จุดตัดเดียว
  • ค่าความแปรปรวนของค่าคงเหลือในกลุ่มที่ 1 ควรกำหนดให้เป้น 1 ส่วนกลุ่มอื่นให้ประมาณค่าได้อย่างอิสระ
  • ค่าความแปรปรวนร่วมระหวา่งองค์ประกอบของทุกกลุ่ม ให้ประมาณค่าอย่างอิสระ
  • ค่าเฉลี่ยขององค์ประกอบของกลุ่มแรกให้กำหนดเท่ากับ 0 ส่วนกลุ่มอื่นให้ประมาณค่าได้อย่างไรอิสระ

ตอนนี้เราได้โมเดลเท่ากันระหว่างกลุ่มแบบ configural หากต้องการความเท่ากันระหว่างกลุ่มแบบ weak ให้กำหนดให้ค่าน้ำหนักองค์ประกอบเท่ากันทุกกลุ่ม ส่วนหากต้องการความเท่ากันระหว่างกลุ่มแบบ strong ให้ทำให้จุดตัดเท่ากันระหว่างกลุ่ม ส่วนความเท่ากันแบบ strict ให้ทำให้ความแปรปรวนระหว่างค่าคงเหลือเท่ากันระหว่างกลุ่ม แต่เนื่องจากความแปรปรวนของค่าคงเหลือถูกกำหนดให้เท่ากับ 1 ในกลุ่มที่ 1 เพื่อการกำหนดสเกล ดังนั้นความเท่ากันแบบ strict จึงหมายถึงกำหนดความแปรปรวนของค่าคงเหลือให้เท่ากับ 1 ทั้งหมด

ไฟล์

Mplus

ไฟล์ทั้งหมดสามารถดาวน์โหลดทีเดียวได้จากที่นี่ไฟล์ทั้งหมดสามารถดาวน์โหลดทีเดียวได้จาก

โมเดล โค๊ดคำสั่ง ผลการวิเคราะห์ ผลการเปรียบเทียบ DIFFTEST
Configural configural5c.inp configural5c.out configural5c.dif
Weak weak5c.inp weak5c.out weak5c.dif
Strong strong5c.inp strong5c.out strong5c.dif
Strict strict5c.inp strict5c.out strict5c.dif

ข้อมูลดิบ: example5c.csv

lavaan

คุณสามารถใช้โค๊ดนี้ ในการสร้างโมเดลแต่ละโมเดล

อีกทางหนึ่ง คุณสามารถใช้semToolsในการวิเคราะห์ ด้วยคำสั่งmeasurementInvarainceCat ในการเปรียบเทียบความเท่าเทียมกันระหว่างกลุ่มทุกรูปแบบอัตโนมัติ ผมแนะนำให้นักวิเคราะห์ใช้วิธีเขียนโค๊ดแบบปกติก่อน เพื่อเข้าใจกระบวนการภายใต้ฟังก์ชั่นนี้ แล้วคุณลองเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์ที่คุณได้กับผลที่ได้จากฟังก์ชั่น measurementInvarainceCat

ข้อคำถามแบบมีตัวเลือก 2 ตัวเลือก

คุณต้องกำหนดค่าดังต่อไปนี้ เพื่อใช้กำหนดสเกลในข้อคำถามแบบ 2 ตัวเลือก:

  • สำหรับองค์ประกอบแต่ละตัว น้ำหนักองค์ประกอบของตัวแปรหลัก ควรจะถูกกำหนดเป็นค่าคงที่ เช่น 1 ส่วนน้ำหนักองค์ประกอบอื่นควรปล่อยให้เป็นอิสระ
  • ค่าจุดตัดของตัวแปรทั้งหมด ให้ปรับให้เท่ากันระหว่างกลุ่มในทุกตัวแปร
  • ค่าความแปรปรวนของค่าคงเหลือในกลุ่มที่ 1 ควรกำหนดให้เป้น 1 ส่วนกลุ่มอื่นให้ประมาณค่าได้อย่างอิสระ ยกเว้นแต่ค่าความแปรปรวนของค่าคงเหลือในตัวแปรหลัก ให้กำหนดเป็น 1 ทั้งหมด
  • ค่าความแปรปรวนร่วมระหวา่งองค์ประกอบของทุกกลุ่ม ให้ประมาณค่าอย่างอิสระ
  • ค่าเฉลี่ยขององค์ประกอบของกลุ่มแรกให้กำหนดเท่ากับ 0 ส่วนกลุ่มอื่นให้ประมาณค่าได้อย่างไรอิสระ

ตอนนี้เราได้โมเดลเท่ากันระหว่างกลุ่มแบบ configural หากต้องการความเท่ากันระหว่างกลุ่มแบบ weak ให้กำหนดให้ค่าน้ำหนักองค์ประกอบเท่ากันทุกกลุ่ม สว่นความเท่ากันระหว่างกลุ่มแบบ strong จะไม่สามารถทดสอบได้ เพราะจุดตัดต้องกำหนดให้เท่ากันในการกำหนดสเกลอยู่แล้ว ส่วนความเท่ากันแบบ strict ให้ทำให้ความแปรปรวนระหว่างค่าคงเหลือเท่ากันระหว่างกลุ่ม แต่เนื่องจากความแปรปรวนของค่าคงเหลือถูกกำหนดให้เท่ากับ 1 ในกลุ่มที่ 1 เพื่อการกำหนดสเกล ดังนั้นความเท่ากันแบบ strict จึงหมายถึงกำหนดความแปรปรวนของค่าคงเหลือให้เท่ากับ 1 ทั้งหมด

ไฟล์

Mplus

ไฟล์ทั้งหมดสามารถดาวน์โหลดทีเดียวได้จากที่นี่ไฟล์ทั้งหมดสามารถดาวน์โหลดทีเดียวได้จาก:

โมเดล โค๊ดคำสั่ง ผลการวิเคราะห์ ผลการเปรียบเทียบ DIFFTEST
Configural configural2c.inp configural2c.out configural2c.dif
Weak weak2c.inp weak2c.out weak2c.dif
Strict strict2c.inp strict2c.out strict2c.dif

ข้อมูลดิบ: example2c.csv

lavaan

คุณสามารถใช้โค๊ดนี้ ในการสร้างโมเดลแต่ละโมเดล

อีกทางหนึ่ง คุณสามารถใช้semToolsในการวิเคราะห์ ด้วยคำสั่งmeasurementInvarainceCat ในการเปรียบเทียบความเท่าเทียมกันระหว่างกลุ่มทุกรูปแบบอัตโนมัติ ผมแนะนำให้นักวิเคราะห์ใช้วิธีเขียนโค๊ดแบบปกติก่อน เพื่อเข้าใจกระบวนการภายใต้ฟังก์ชั่นนี้ แล้วคุณลองเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์ที่คุณได้กับผลที่ได้จากฟังก์ชั่น measurementInvarainceCat